Monday, January 31, 2011

สาคูไส้หมู

อาหารว่างประเภทหนึ่งที่มักจะวางขายคู่กับข้าวเกรียบปากหม้อ นั่นก็คือ สาคูไส้หมู สาคูไส้หมูนั้นมีรสชาติที่หวานเล็กน้อยปนเค็มนิดๆ โดยจะนิยมรับประทานคู่กันกับผักชี ผักสลัด และพริกขี้หนูเพื่อแก้เลี่ยน นอกจากจะเป็นอาหารประเภทที่รับประทานง่ายแล้ว วิธีการก็ไม่ยุ่งยาก ไม่ต้องใช้เวลาและความชำนาญในการทำมากมายเหมือนของว่างประเภทอื่นๆ


ส่วนผสม
  • สาคูเม็ดเล็ก 500 กรัม
  • เนื้อหมูสับ 250 กรัม
  • หัวไชโป๊เค็มสับละเอียด 100 กรัม (ล้างแล้วใส่กระชอนให้สะเด็ดน้ำ)
  • หอมใหญ่หั่นชิ้นเล็ก ๆ ¼ ถ้วยตวง
  • ถั่วลิสงคั่วป่นหยาบ 1 ถ้วยตวง
  • รากผักชีหั่นละเอียด 1 ช้อนโต๊ะ
  • กระเที่ยมปอกเปลือกสับหยาบ 4 ช้อนโต๊ะ
  • พริกไทยเม็ด 1 ช้อนชา
  • น้ำตาลปี๊บ ½ ถ้วยตวง
  • น้ำปลา ½ ช้อนโต๊ะ
  • ซีอิ๊วขาว ½ ช้อนโต๊ะ
  • ซอสปรุงรส ½ ช้อนโต๊ะ
  • ซีอิ๊วดำ ½-1 ช้อนชา
  • น้ำมันพืช ¼ ถ้วยตวง
  • น้ำร้อน 1/3 ถ้วยตวง
  • ผักสดสำหรับใช้เป็นเครื่องเคียง เช่น ผักกาดหอม, ผักชี, พริกขี้หนูสด เป็นต้น
  • ผ้าขาวบางสำหรับรองในลังถึงก่อนนึ่ง
วิธีทำ
1.นำสาคูไปล้างน้ำให้สะอาด เทใส่กระชอนพักไว้ให้สะเด็ดน้ำ จากนั้นนำไปใส่ในอ่างผสม ค่อยๆ ใส่น้ำร้อนลงไปทีละนิด คนให้เข้ากัน จากนั้นใช้ผ้าขาวบางชุบน้ำบิดให้หมาดๆ คลุมไว้ประมาณ 1 ชั่วโมง หลังจากนั้นนำมานวดให้เหนียวเป็นเนื้อเดียวกัน ปั้นเป็นก้อนกลม ๆ ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ ½ -1 นิ้ว เสร็จแล้วพักไว้


วิธีทำ

1.นำสาคูไปล้างน้ำให้สะอาด เทใส่กระชอนพักไว้ให้สะเด็ดน้ำ จากนั้นนำไปใส่ในอ่างผสม ค่อยๆ ใส่น้ำร้อนลงไปทีละนิด คนให้เข้ากัน จากนั้นใช้ผ้าขาวบางชุบน้ำบิดให้หมาดๆ คลุมไว้ประมาณ 1 ชั่วโมง หลังจากนั้นนำมานวดให้เหนียวเป็นเนื้อเดียวกัน ปั้นเป็นก้อนกลม ๆ ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ ½ -1 นิ้ว เสร็จแล้วพักไว้2. ใส่น้ำมันพืชลงในกระทะ นำไปตั้งไฟกลางให้ร้อน ใส่กระเทียมสับ 3 ช้อนโต๊ะลงไป เจียวให้เหลือง (ระวังอย่าให้ไหม้) จากนั้นตักขึ้นพักไว้
3. นำรากผักชี, กระเทียมที่เหลือ และพริกไทยเม็ดมาโขลกรวมกันให้ละเอียด
4. ตั้งกระทะบนไฟกลาง ใส่น้ำมันที่เหลือจากการเจียวกระเทียมลงไป2 ช้อนโต๊ะ เมื่อน้ำมันร้อนได้ที่จึงใส่เครื่องที่โขลกลงไปผัดให้หอม ใส่หอมใหญ่และหมูสับลงไป ผัดยีให้หมูกระจาย ตามด้วยหัวไชโป๊สับ จากนั้นปรุงรสด้วยน้ำตาลปี๊บ, น้ำปลา, ซีอิ๊วขาว, ซอสปรุงรส และซีอิ๊วดำ ผัดให้เข้ากัน ชิมให้ออกรสเค็มและหวาน ใส่ถั่วลิสงลงไป ผัดให้เข้ากันจนเหนียว ปิดไฟ ยกลงแล้วทิ้งไว้ให้เย็น
5. แผ่สาคูที่ปั้นไว้ออกให้เป็นแผ่นบาง ๆ ตักไส้ใส่ตรงกลาง แล้วห่อด้วยแผ่นแป้งให้มิด จากนั้นนำไปวางเรียงบนถาด
6. นำผ้าขาวบางมาปูบนลังถึง  เรียงสาคูลงบนผ้าขาวบาง โดยให้เว้นระยะห่างจากกันประมาณ 1 เซนติเมตร (เผื่อสาคูขยายตัวเวลานึ่ง) จากนั้นยกขึ้นนึ่งในน้ำเดือดไฟแรง นานประมาณ 10 – 15 นาที หรือจนสุกจึงยกลง
7. ตักใส่จาน พรมด้วยกระเทียมเจียว เสิร์ฟพร้อมผักกาดหอม, ผักชี และพริกขี้หนูสด



เคล็ดลับความอร่อย

สาคูไส้หมูจะอร่อยหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับ “ตัวไส้” ที่จะต้องมีรสชาติกลมกล่อม ออกเค็มนำแล้วหวานตาม และสาคูนั้นจะต้องจับตัวกันเหนียวพอดี ไม่ใช่เหนียวหนึบหนับเสียจนติดเหงือกติดฟันเวลาเคี้ยว นอกจากไส้หมูแล้ว ตัวไส้สามารถปรับเปลี่ยนไปใช้อย่างอื่นแทนได้ เช่น ไก่ กุ้ง ปลา หรือผัก ฯลฯ
ขณะผัดไส้ต้องใจเย็นๆ ค่อย ๆ ผัดไปเรื่อย ๆ จนไส้จับตัวกันเหนียวดี หัวไชโป๊ที่นำมาใช้ ถ้าเค็มมากควรล้างน้ำก่อน เพื่อลดความเค็มแล้วจึงค่อยสับ ถั่วลิสงที่นำมาใช้จะต้องคั่วให้สุกหอมก่อนโขลก และจะต้องโขลกไม่ให้ละเอียดหรือหยาบเกินไป ถ้าโขลกถั่วละเอียดเกินไป เวลารับประทานจะไม่รู้สึกว่ามีถั่วผสมอยู่ นอกจากนี้สาคูควรจะต้องมีสัดส่วนของแป้งและไส้ที่สัมพันธ์กัน ไม่ใช่แป้งมากไส้น้อย หรือแป้งน้อยแต่ใส่ไส้มากจนแป้งทะลุ
การปั้นสาคูนั้นควรจุ่มมือในน้ำทุกครั้งที่แผ่แป้ง เพื่อกันไม่ไห้แป้งติดมือ ถ้าปั้นไส้เตรียมไว้ก่อน ก็จะช่วยให้เราปั้นสาคูได้เร็วขึ้น และพยายามอย่าปั้นให้ลูกโตมากนัก เพราะเวลานึ่งสุกแล้วสาคูจะขยายตัวขึ้นมาอีก
สาคูไส้หมูที่ดีเมื่อนึ่งสุกแล้วสาคูจะต้องใส ถ้ามีจุดขาวขุ่น ๆ อยู่ในตัวแป้งแสดงว่าแป้งยังดิบอยู่ ในการนึ่งสาคูนั้นจะต้องนึ่งด้วยน้ำเดือดไฟแรง โดยใช้เวลาประมาณ 10 – 15 นาทีก็จะสุก (ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับขนาดของสาคูด้วย)

No comments:

Post a Comment

esarnfood@gmail.com